ด้วยแพลตฟอร์ม DesignCLASS ท่านจะพัฒนาการออกแบบการเรียนรู้ที่ส่งเสริมการเรียนการสอนอนาคต คลิกเลยเพื่อเริ่มต้นประสบการณ์การออกแบบการเรียนการสอน!

เกี่ยวกับเรา

DesignCLASS เป็นผลงานวิจัยที่ได้รับทุนอุดหนุนการวิจัยจากสำนักงานปลัดกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม

พัฒนาโดย

ภาควิชาเทคโนโลยีและสื่อสารการศึกษา
คณะครุศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

การประเมินเพื่อการเรียนรู้ (Assessment for Learning)

เนื้อหา

การประเมินเพื่อการเรียนรู้ เป็นการประเมินผลจากการบวนการและการเรียนรู้ของผู้เรียน โดยประเมินตามสภาพจริง ข้อมูลที่ได้จากการประเมิน ผู้สอนสามารถนำมาวิเคราะห์ผู้เรียน เพื่อวางแผนจัดการเรียนรู้ และการให้ข้อเสนอแนะ กับผู้เรียน เพื่อให้ผู้เรียนได้ปรับปรุงและพัฒนาตนเองได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

วิธีการประเมิน

  1. Dialogue Simulations เป็นการจำลองบทสนทนาเป็นแบบฝึกหัดเชิงโต้ตอบที่เลียนแบบการสนทนาจริงกับบุคคลในสถานการณ์ต่างๆ เช่น ผู้บริหาร คนไข้ ลูกค้า พนักงาน หรือเพื่อนร่วมงาน ที่ผู้เรียนต้องสื่อสารในสายอาชีพ และใช้วิธีนี้เพื่อฝึกทักษะการสื่อสาร การแก้ปัญหาเฉพาะหน้า สำหรับฝึกฝนปฏิกิริยาตอบสนองและการตอบสนองกับบุคคล
  2. Game-based Assessments การใช้เกมเพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการประเมินผลเป็นการสร้างและสนับสนุนสภาพแวดล้อมการเรียนรู้ จากความน่าสนใจและการมีส่วนร่วม สนุก และหลากหลาย ตลอดทั้งมีการประเมินระหว่างการเรียนการสอนอย่างต่อเนื่อง และสม่ำเสมอ เพื่อพัฒนาทักษะต่างๆ เช่น ความสามารถในการแก้ปัญหาใหม่และปรับให้เข้ากับสถานการณ์ที่ไม่คุ้นเคย ความสามารถในการรับและจัดการข้อมูลใหม่ ความคิดสร้างสรรค์ ทั้งนี้ผู้สอนสามารถใช้เกมหรือเกมมิฟิเคชันในการประเมินผลการเรียนรู้ได้ อาทิ
  • ผู้สอนสร้างหรือดัดแปลงเกมที่มีอยู่เพื่อให้เข้ากับบทเรียน เช่น เกมเศรษฐี การจำลองตลาดจากโปรแกรมจำลองสถานการณ์
  • ผู้สอนสร้างกติกาให้กับผู้เรียน เช่น การได้มาหรือเสียคะแนน (Points) การให้รางวัล (Awards) หรือการยกระดับเมื่อผ่านด่าน (Levels) กระดานผู้นำ (Leaderboards)
  • ผู้สอนสร้างสถานการณ์จำลองหรือด่าน เพื่อท้าทายความสามารถและทักษะต่างๆ ของผู้เรียน
  1. Peer Review/ Peer assessment การประเมินโดยเพื่อนหรือการทบทวนโดยเพื่อน สามารถเป็นได้ทั้งการประเมินเพื่อพัฒนาการเรียนรู้ และการประเมินเพื่อตัดสินผล โดยจะช่วยผู้สอนวัดทักษะในการประเมินของผู้เรียน ว่าผู้เรียนนั้นมีความรู้ ความเข้าใจ และสามารถประเมินงานของเพื่อนได้อย่างมีหลักเกณฑ์และเหมาะสม ซึ่งจะช่วยให้ผู้เรียนพัฒนาทักษะในการประเมิน การวิพากษ์ และให้ข้อเสนอแนะแก่ผู้อื่น และยังช่วยให้มีทักษะในการประเมินตนเองและปรับปรุงงานของตนเอง 

คำแนะนำเพิ่มเติม

  • ผู้สอนจัดทำเกณฑ์การประเมิน และหรือมีตัวอย่างของข้อเสนอแนะที่เฉพาะเจาะจง
  • ผู้สอนควรแนะนำผู้เรียนในฐานะผู้ประเมินเกี่ยวกับความสมบูรณ์ตามเกณฑ์การประเมิน อาจจะระบุหรือไม่ระบุตัวตนของผู้ประเมิน 
  • ผู้สอนควรให้คำติชมของเพื่อนอยู่ในรูปแบบที่เป็นลายลักษณ์อักษรเพื่อให้สามารถเข้าถึงได้สะดวก และง่ายต่อการตรวจสอบ 
  1. Digital Learning journals วารสารการเรียนรู้ดิจิทัลคือการให้ผู้เรียนเขียนการเรียนรู้หรือการสะท้อนการทำงานของตนเองรวมถึงกระตุ้นให้ไตร่ตรองถึงความก้าวหน้าที่จะแสดงทั้งผลสัมฤทธิ์ของและการเรียนรู้ในช่วงเวลาหนึ่ง วารสารการเรียนรู้ดิจิทัลเหมาะสำหรับทุกสาขาวิชา เนื่องด้วยสามารถใส่ทั้งข้อความ รูปภาพ และวิดีโอได้ เช่น วารสารความท้าทายเพื่อทบทวนความท้าทายต่างๆ ที่เกิดขึ้นระหว่างการเรียนรู้ของสัปดาห์และวางแผนกลยุทธ์เพื่อการปรับปรุง สมุดภาพดิจิทัลใช้โปรแกรมวาดภาพประกอบง่ายๆ เพื่อวาดสิ่งที่ได้รับแรงบันดาลใจจากการเรียนรู้ของสัปดาห์
  2. Online discussion การอภิปรายออนไลน์เป็นการสื่อสารระหว่างผู้สอนและผู้เรียนโดยใช้เครื่องมือสื่อสารเชิงโต้ตอบออนไลน์ซึ่งมีได้หลายรูปแบบ เพื่อส่งเสริมการสนทนาระหว่างผู้เรียนและ/หรือผู้สอน ข้อดีคือผู้เรียนทุกคนสามารถแสดงความคิดเห็น และการสนทนาในเชิงลึกได้โดยผ่านการไตร่ตรองอย่างถี่ถ้วน และลดข้อจำกัดด้านความกล้าแสดงออกของผู้เรียน เช่น Discussion board, Blog, Wiki, Forum 
  3. Write Assignments การประเมินจากการเขียน
  • Short essays (เรียงความ/บทความสั้น) เป็นการให้ผู้เรียนเขียนแสดงความคิดในหัวข้อต่างๆ ข้อโต้แย้ง หรือการวิจารณ์ ที่ต้องมีความชัดเจนในประเด็นที่เขียน ประกอบกับการเขียนที่สั้น กระชับ เข้าใจได้ง่าย
  • Research papers (รายงานการวิจัย) คืออบการเขียนรายงานเพื่อให้ผู้เรียนอธิบายสิ่งที่ได้เรียนรู้จากการค้นคว้าหัวข้อที่ได้รับอย่างลึกซึ้ง รายงานการวิจัยมีได้หลายประเภท เช่น เชิงวิเคราะห์ เชิงโต้แย้ง การเปรียบเทียบ ความเป็นเหตุและผล การตีความ เชิงทดลอง หรือการสำรวจ
  • Case study responses (การตอบกรณีศึกษา) เป็นการให้ผู้เรียนอธิบายปัญหาหรือสถานการณ์ที่ต้องอาศัยการคิดวิเคราะห์ประเด็นหลักที่เกี่ยวข้อง ใช้ความรู้ที่ได้รับจากการอ่านและการวิจัยเชิงวิชาการ และสรุปเกี่ยวกับวิธีตอบสนองต่อสถานการณ์นั้นๆ
  1. Concept Maps (แผนผังมโนทัศน์) เป็นเครื่องมือสำหรับจัดการและเขียนแทนโครงสร้างความรู้ เพื่อช่วยจัดระเบียบข้อมูลใหม่ สร้างความสัมพันธ์ที่มีความหมายระหว่างแนวคิดหลักและข้อมูลอื่นๆ ทั้งยังช่วยเชื่อมโยงความรู้ที่มีอยู่กับความรู้ใหม่ ผู้สอนสามารถใช้ประเมินความเข้าใจของผู้เรียนว่าความรู้ของผู้เรียนต้องปรับหรือแก้ไขความเข้าใจในเรื่องใด

แหล่งเรียนรู้

สำนักงานคณะกรรมการการศึกษา. (2560). การประเมินเพื่อการเรียนรู้ : การตั้งคำถามและการให้ข้อมูลย้อนกลับเพื่อส่งเสริมการเรียนรู้, กระทรวงศึกษาธิการ, http://academic.obec.go.th/images/document/1517564005_d_1.pdf 

https://so02.tci-thaijo.org/index.php/jemmsu/article/view/146890
https://so02.tci-thaijo.org/index.php/suedujournal/article/view/92244